เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
Enconcept : English is Alive "ภาษามีชีวิต อังกฤษพ้นกรอบ"

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554

27OCT11 ข้อสอบ GAT Grammar (Error 2)

สวัสดีค่ะน้อง เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการฝึกทำข้อสอบ Grammar
น้องๆหลายคนบ่นว่า ไม่ชอบเลย ข้อสอบ Error Identification นั้นยาก
จริงๆแล้ว ถ้าน้องๆฝึกทำอย่างเป็นขั้นตอน คิดอย่างเป็นระบบแล้วไม่ยากเลยค่ะ
มันเพียงแค่ดูเหมือนเยอะ เพราะเราต้องพิจารณาหัวข้อ Grammar อย่างน้อย
4 เรื่อง ตรง 4 จุดที่โจทย์ขีดเส้นใต้มาเท่านั้นเองนะคะ



อย่างที่พี่แนนบอกไปว่า อันดับแรก เราต้องวิเคราะห์ประโยคกันก่อน โดยใช้
Strategic Structure หรือโครงสร้างเชิงกลยุทธ์

จากโจทย์ที่พี่แนนให้ไป เรามาวิเคราะห์โครงสร้างของประโยคกันค่ะ


She wears a black baseball cap (1) reads SECURITY and
a (2) 
bulletproof vest but travels (3) unarmed, partly  (4) for liability reasons. 



ประธานของประโยคนี้คือ She กริยาของประโยคนี้ คือ wears
กรรมของ wares มี 2 ตัวคือ cap และ vest
verb อีกตัวของประโยคอยู่หลังคำเชื่อม but คือ travels นั่นเองค่ะ



แปลรวมๆได้ว่า เธอสวมหมวกเบสบอลสีดำ(มีตัวหนังสือ)อ่านได้ว่า SECURITY
(รักษาความปลอดภัย) และสวมเสื้อกั๊กกันกระสุน แต่ เดินทางไปไหนมาไหน
แบบปลอดอาวุธ เป็นส่วนหนึ่งสำหรับเหตุผลด้านความรับผิดชอบ



พิจารณาทีละจุด ไล่จาก (4) ไปนะคะ
(4) for ตามด้วยคำนาม หรือ V.ing ในข้อนี้ ตามมมาด้วย reasons เป็นคำนาม
      นอกจากนี้ for reasons ยังมีความหมายว่า เนื่องจากเหตุผล... ค่ะ จึงถูกต้องนะคะ
(3) unarmed แปลว่า ปราศจากอาวุธ
      ตรงกันข้ามกับ armed adj. ติดอาวุธ (arm n. นอกจากแปลว่าแขนแล้วแปลว่าอาวุธได้ค่ะ)
(2) bulletproof adj. แปลว่ากันกระสุน เป็น adj. ขยาย n. คือคำว่า vest ก็ถูกต้อง
      ช่วงนี้จะเห็นคำว่า waterproof adj. กันน้ำ บ่อยนะคะ

เมื่อถูกทั้ง 3 ข้อแล้ว ข้อที่ผิดจึงเป็นข้อ (1) นั่นเองค่ะ :)
เพราะว่า ประโยคนี้มีกริยาแท้อยู่แล้วนะคะ สำหรับ read ตรงนี้ต้องทำหน้าที่เป็น
adj. เพื่อขยายคำนามคือ cap การทำให้ verb อยู่ในรูปของ past participle

จะให้ความหมายว่า หมวกถูกอ่านได้ว่า SECURITY ค่ะ
past participle (V.เติม ed หรือ V. ช่อง 3) ของคำว่า read คือ read นั่นเอง
สรุปก็คือ แก้จาก reads เป็น read เฉยๆนะคะ


ขออธิบายหัวข้อ Grammar เพิ่มนิดหน่อยค่ะ
Present Participle VS Past Participle

ทั้ง 2 ตัวนี้หำหน้าที่ขยายคำนาม โดย Present Participle จะมีความหมาย
ว่านามนั้น กระทำกริยาดังกล่าวเอง เช่น The girl [crossing the road] is Linda.
เด็กหญิง คนที่ข้ามถนนอยู่ คือ Linda. น้องๆจะเห็นว่า the girl ทำกริยานั้นเอง

แต่ถ้า Past Participle จะมีความหมายว่า นามนั้นถูกกระทำ เช่น
The girl [hit by a car] is Linda. เด็กหญิง คนที่ถูกรถชน คือ Linda

แบบนี้ hit เป็น v. ช่อง 3 หรือ Past Participle แสดงการถูกกระทำนะคะ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอบถูกกันไหมเอ่ย
ต้องฝึกทำโจทย์บ่อยๆ จะได้มีประสบการณ์ และตอบได้อย่างแม่นยำนะคะ



ก่อนจะเปลี่ยนไปดูโจทย์ Grammar ประเภทอื่นๆ พี่แนนขอทิ้งท้ายโจทย์ Error
ให้น้องๆฝึกทำกันอีกสักข้อนึง

They point out that, (1) despite of their (2) advanced age,
(3) nearly a fifth of the women in the oldest group remained
(4) emotionally vital.



(มาจากข้อสอบ GAT มีนาคม 2554)


ติดตามเฉลยได้ใน Blog ของพี่แนนครั้งต่อไปค่ะ :)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น